การขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจ สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ หรือพิโกพลัส มีหลักเกณฑ์ และวิธีการอย่างไร รวมถึงมีภาษีอะไรเกี่ยวข้องกับการประกอบธุรกิจบ้าง?
การขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจ สินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัดภายใต้การกำกับ (พิโกไฟแนนซ์หรือพิโกพลัส)
ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมามีผู้ประกอบการหลายรายโทรเข้ามาสอบถามและขอคำแนะนำเกี่ยวกับการขอ
ใบอนุญาต PICO ซึ่งใบอนุญาตใบนี้เป็นใบอนุญาตที่ผู้ที่ได้รับใบอนุญาตสามารถปล่อยสินเชื่อให้กับประชาชนทั่วไปได้โดยพี่เก่งจะอธิบายเกี่ยวกับเรื่องหลักเกณฑ์ในการขอใบอนุญาต เอกสารที่ต้องให้ในการยื่นขอ และระยะเวลาในการพิจารณา รวมถึงเมื่อได้ใบอนุญาต เรื่องบัญชีและภาษีมีเรื่องอะไรมาเกี่ยวข้องบ้าง
1.หลักเกณฑ์ในการขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัด
ก่อนอื่นเราต้องทราบก่อนว่า ใบอนุญาตพิโกไฟแนนช์นี้มี 2 แบบ คือ พิโกไฟแนนช์ กับ พิโกไฟแนนช์พลัส โดย 2 แบบนี้มีความแตกต่างและรายละเอียดดังนี้
1.1 กรณีพิโกไฟแนนซ์ จะต้องมีทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้วไม่ต่ำกว่า 5 ล้านบาท และสามารถปล่อยสินเชื่อ
ให้แก่ประชาชนได้ไม่เกิน 50,000 บาทต่อราย และในส่วนของการเรียกเก็บดอกเบี้ย กำไรจากการให้สินเชื่อ ค่าปรับ ค่าบริการ และค่าธรรมเนียมอื่นใด รวมกันแล้วต้องไม่เกิน 33% ต่อปี (กรณีที่มีหลักประกัน) แต่ถ้าไม่มีหลักประกัน อัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ไม่เกิน 36% ต่อปี โดยอัตราดอกเบี้ยเป็นแบบ Effective Rate คือลดต้นลดดอก)
1.2 กรณีพิโกพลัส จะต้องมีทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้วไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท และสามารถปล่อยสินเชื่อให้แก่ประชาชนได้ไม่เกิน 100,000 บาทต่อราย โดย 50,000 บาทแรกสามารถเรียกเก็บดอกเบี้ย กำไรจากการให้สินเชื่อ ค่าปรับ ค่าบริการ และค่าธรรมเนียมอื่นใด รวมกันแล้วได้ไม่เกินอัตราร้อยละ 33 ต่อปี (กรณีที่มีหลักประกัน ) แต่ถ้าไม่มีหลักประกัน อัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 36% ต่อปี ส่วนที่เหลือ 50,000 บาทหลังสามารถเรียกเก็บดอกเบี้ย กำไรจากการให้สินเชื่อ ค่าปรับ ค่าบริการ และค่าธรรมเนียมอื่นใด รวมกันได้ไม่เกินอัตราร้อยละ 28 ต่อปี (Effective Rate)
สรุปความแตกต่างของ ทั้ง 2 แบบ มีดัวยกัน 3 เรื่องคือ
ความแตกต่าง | พิโก | พิโกพลัส |
1.ทุนจดทะเบียนที่เรียกชำระแล้ว | 50,000 | 100,000 |
2.วงเงินสินเชื่อต่อราย | ||
3.อัตราดอกเบี้ย | ||
วงเงิน 50,00 แรก มีหลักประกัน | 33% ต่อปี | 33% ต่อปี |
วงเงิน 50,000 แรก ไม่มีหลักประกัน | 36% ต่อปี | 36% ต่อปี |
วงเงิน 50.000 หลัง | – | 28% ต่อปี |
2.ผู้ขออนุญาตจะต้องเป็นนิติบุคคล 3 ประเภท ดังนี้ 1. ห้างหุ้นส่วน 2. บริษัทจำกัด 3. บริษัทมหาชนจำกัด
3.นิติบุคคลที่ขออนุญาตประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัดภายใต้การกำกับนั้นชาวต่างชาติถือหุ้นได้ไม่ เกิน 49% ทั้งนี้ชาวต่างชาติสามารถเป็นกรรมการได้ แต่ต้องไม่ใช่กรรมการผู้มีอำนาจเซ็น
4. ผู้ขอใบอนุญาตนี้ต้องไม่ใช้สถาบันการเงิน คือใบอนุญาตนี้ให้ผู้ประกอบกรที่ไม่ใช่ธนาคาร (Non – Bank)
5. หลังจากได้ใบอนุญาตประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัดภายใต้การกำกับ ต้องเปิดดำเนินการ ภายใน 1 ปี
6. สามารถปล่อยสินเชื่อได้เฉพาะในจังหวัดที่สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่
7. ผู้กู้ต้องเป็นบุคคลธรรมดา ที่มีถิ่นที่อยู่ในจังหวัด หรือ มีภูมิลำเนา เดียวกับผู้ให้กู้
8. เป็นสินเชื่อจะมีหลักประกันหรือไม่มีหลักประกันก็ได้
9. กรรมการผู้จัดการ หุ้นส่วนผู้จัดการ ผู้มีอำนาจในการจัดการ หรือผู้ถือหุ้นของผู้ประกอบธุรกิจต้องไม่มีดังนี้
9.1. เป็นหรือเคยเป็นบุคคลล้มละลาย
9.2. เคยได้รับโทษจำคุก โดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกในความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ที่กระทำโดยทุจริต
10. ผู้ประกอบการต้องการที่จะเปิดสาขาใหม่ ต้องแจ้งให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลังทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 15 วันนก่อนเปิดทำการสำนักงานสาขาดังกล่าว
11. ผู้ประกอบธุรกิจจะย้ายสำนักงานสาขาหรือปิดสำนักงานสาขา ต้องแจ้งสำนักงานเศรษฐกิจการคลังล่วงหน้าไม่ น้อยกว่า 30 วัน
12. ผู้ประกอบ ต้องปิดประกาศ ณ สำนักงานใหญ่และสำนักงานสาขา เพื่อให้ผู้ใช้บริการทราบรายละเอียดเกี่ยวกับ ดอกเบี้ย ค่าปรับ ค่าบริการ ค่าธรรมเนียมใดๆ ก่อนที่ผู้บริโภคจะตกลงใช้บริการสินเชื่อรายย่อยภายในวันเดียว ที่ผู้ประกอบธุรกิจประกาศหรือเปลี่ยนแปลงรายละเอียดดังกล่าว
2.เอกสารเบื้องต้นที่ใช้ในการขออนุญาตประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัดภายใต้การกำกับ (พิโกไฟแนนซ์และพิโกพลัส)
- แบบคำขออนุญาตประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัดภายใต้การกำกับ
- สำเนาใบสำคัญแสดงการจดทะเบียนนิติบุคคล มีอายุไม่เกิน 1 เดือน ก่อนวันยื่นขอหนังสืออนุญาต
- สำเนาหนังสือบริคณห์สนธิ (กรณีบริษัท)
- สำเนาทะเบียนผู้ถือหุ้น (กรณีบริษัท)
- สำเนาข้อบังคับ (กรณีบริษัท)
- แบบรับรองคุณสมบัติกรรมการ ผู้จัดการ และ/หรือผู้มีอำนาจในการจัดการทุกคน
- ชื่อ ที่อยู่ปัจจุบัน เบอร์โทรศัพท์ ของผู้สอบบัญชี ประวัติการตรวจสอบบริษัท พร้อมสำเนาใบอนุญาตผู้สอบบัญชี
- งบการเงินที่รับรองโดยผู้สอบบัญชีปีล่าสุด หรือหนังสือรับรองเงินฝากจากธนาคารพาณิชย์มีจำนวนเงินไม่ต่ำกว่า 5 ล้าน โดยต้องมีอายุไม่เกิน 7 วันก่อนวันยื่นหนังสือขออนุญาต
- สำเนารายงานการประชุมของคณะกรรมที่มีมติเห็นชอบให้บริษัท/ห้างหุ้นส่วน ประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อย ระดับจังหวัดภายใต้การกำกับ
- แผนการดำเนินธุรกิจการให้สินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัดภายใต้การกำกับ
- ภาพถ่ายสำนักงานใหญ่ และสำนักงานสาขา (ถ้ามี) พร้อมแผนที่ตั้ง
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้านของกรรมการ ผู้จัดการ และ/หรือผู้มีอำนาจในการ จัดการ
- หลักฐานการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมของผู้ถือหุ้นและกรรมการทุกท่าน
3.ระยะเวลาในการอนุมัติ
ระยะเวลาในการพิจารณาอนุมัติ ตามกฎหมาย 60 วัน แต่อาจจะนานกว่าระยะเวลาตามที่กฎหมายกำหนดไว้
4.ภาษีที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจพิโก
4.1 ภาษีนิติบุคคล. คำนวณจากกำไรสุทธิ = รายได้ทั้งหมด – ค่าใช้จ่ายทั้งหมด
กำไร 1 – 300,000 | ภาษี 0 บาท |
กำไร 300,0001 – 3,000,000 | ภาษี 15% |
กำไร 3,000,001 บาทขึ้นไป | ภาษี 20% |
4.2 ภาษีหัก ณ.ที่จ่าย
กรณีเราเป็นนิติบุคคลและมีการจ่ายค่าบริการจะต้องมีการหัก ภาษี หัก ณ. ที่จ่ายและนำส่ง สรรพากรภายในวันที่ 7 ของเดือนถัดไป
4.3 ภาษีธุรกิจเฉพาะ
เมื่อเริ่มประกอบธุรกิจต้องไปจดเข้าระบบภาษีธุรกิจเฉพาะ ที่สรรพากรพื้นที โดยภาษีธุรกิจเฉพาะ จะเสียในอัตรา 3.3% ของรายได้ค่าดอกเบี้ยที่ได้รับในแต่ละเดือน และนำส่งภาษีธุรกิจเฉพาะ ด้วยแบบ ภธ 40 ภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป
4.4 อากรแสตมป์
อากรแสตมป์ทางผู้ให้กู้จะต้องติดอากรแสตมป์ในสัญญาการกู้ยืม โดย ทุกๆ 2,000 บาทจะต้องติดอากรแสตมป์ 1 บาท. ถ้าปล่อย 50,000 ก็ยังติดอากรแสตมป์ 25 บาท
สรุปภาษีที่เกี่ยวก้อง
รายการ | ภาษีนิติบุคคล | ภาษีธรุกิจเฉพาะ | อากรแสตมป์ |
รายได้ดอกเบี้ยตามสัญญาให้กู้ยืมเงิน | / | / | / |
รายได้ค่าบริการที่เกี่ยวเนื่องกับการให้กู้ยืม | |||
ค่าธรรมเนียมการกู้ | / | / | |
รายได้ค่าติดตามหนี้ | / | / | |
ค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องกับการให้กู้ยืม | / | / |
5.การจัดทำบัญชีและการนำส่งรายงาน
รายเดือน: | จัดทำรายงานแบบรายงานสินเชื่อ ตามแบบที่กำหนด นำส่งให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ภายใน 30 วันนับจากวันสิ้นเดือน |
รายปี: | -จัดทำงบการเงิน ณ. วันสิ้นปี และนำส่งสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ภายใน 150 วันนับจากวันสิ้นปี -จัดทำงบการเงิน ณ. วันสิ้นปี นำส่งกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ภายใน 5 เดือนนับจากวันสิ้น – จัดทำงบการเงิน ณ. วันสิ้นปี นำส่งกรมสรรพากรพร้อมแบบ ภงด 50 ภายใน 150 วัน นับจากวันสิ้นปี |
จากข้อมูลข้างต้นจะเห็นว่าธรุกิจพิโกไฟแนนซ์ มีความละเอียดตั้งแต่ขั้นตอนการขอใบอนุญาต และ หลังจากได้ใบอนุญาต ดังนั้นผู้ประกอบการที่ต้องการขอใบอนุญาตใบนี้ ควรศึกษาข้อมูลและแนวทางปฏิบัติต่างๆเพื่อให้สามารถจัดทำข้อมูลและได้ถูกต้องครบถ้วน
สนใจบริการติดต่อ
บริษัท กรีนโปร เคเอสพี คอนซัลติ้ง จำกัด
43 อาคารไทยซีซีทาวเวอร์ ชั้น 11 ห้องเลขที่ 111 ถนนสาทรใต้ แขวงยานนาวา เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120
Tel : 094 864 9799
LINE ID : @greenproksp
E-mail info.th@greenproksp.com
บริษัท กรีนโปร เคเอสพี คอนซัลติ้ง จำกัด
43 อาคารไทยซีซีทาวเวอร์ ชั้น 11 ห้องเลขที่ 111 ถนนสาทรใต้ แขวงยานนาวา เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120
Tel : 094 864 9799, 084 360 4656
LINE ID : @greenproksp
E-mail info.th@greenproksp.com